วิธีดู วิเคราะห์ข่าว


แนะนำวิธีดู วิเคราะห์ข่าว
เปิดเว็บนี้ตามไปด้วย (www.forexfactory.com)   จากตารางข่าวของเว็บ www.Forexfactory.com จะประกอบต้วย Date(วันที่) Time (เวลา)
Currency(ค่าเงิน), Impact(ความแรงของข่าว) Actual (ตัวเลขที่ออกจริง), forecast(ตัวเลขคาดการณ์
จากนักวิเคราะห์) previous(ตัวเลขที่ออกก่อนหน้านั้น) lmpact(ความแรงของข่าว) จะมีสีกำกับอยู่หน้าข่าว
โดยสีแดงจะเป็นข่าวที่มีความสำคัญมากทีสุด รองลงมาคือสี ส้ม,สีเหลือง และ สีเทา
จะแสดงว่าเป็นวันหยุดของตลาดของประเทศนั้นและตัวเลขจริงที่ออก มา Actual ตัวเลข ที่ออกมาจะมี 3 อย่างด้วยกัน คือ
สีเขียวหมายถึงข่าวดี
สีแดงหมายถึงข่าวไม่ดี
สีดำคือไม่มีข่าวนั้นออกมาหรือมีแต่ไม่ส่งผลอะไร
โดยขึ้นอยู่กับความแรงของข่าวด้วย Impact ถ้าข่าว High Impact สีแดง และตัวเลขที่ประกาศออกมา เป็นสีเขียวหรือสีแดง
ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงกราฟขึ้น-ลงประมาณ 1xx pips ขึ้นไป
วิธีการเก็งกำไรจากข่าวในตาราง Forexfactory ให้รอดูตัวเลขจริง Actual ออกมาก่อนนะครับ เมื่อด้วเลข จริง(actual)
ออกมามากกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลขที่คาดการณ์(forecast)ไว้จะส่งผลทำให้ดีกับค่าเงินนั้นๆ แต่ถ้า
ตัวเลขจริงออกมาน้อยกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้จะส่งผลเสียกับค่างินนั้นๆ เช่น ถ้ข่าวของ USD ออกมามากกว่า
ตัวเลขคาดการณ์(Forecast) จะทำให้ USD / XXX ขึ้น และทำให้ XXX / USD ลง ( XXX คือ ค่าเงินของ
ประเทศนั้นๆเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ(USD)อาทิเช่น JPY CHF CAD AUD NZD GBP )
ถ้าข่าว Gross Domestic Product หรือ GDP ของอังกฤษ(GBP) ตัวเลขออกมามากกว่าที่ตัวเลขที่นัก
วิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้จะส่งผลให้กราฟของ GBP/USD , GBP/JPY,GBP/CHF ขึ้น และกราฟ EUR/GBP จะลง
ระดับความสำคัญของปฏิทินเศรษฐกิจ
1. สาคัญมาก
ชื่อก็บอกอยู่ แล้วว่าสำคัญมาก ซึ่งจะเป็นข่าวและตัวเลขที่มีผลกระทบกับค่าเงินของประเทศนั้น ๆ อย่างแรง เมื่อ
ตัวเลขประกาศแล้ว จะมีปริมาณการซื้อขายที่สูงมาก ๆ ซึ่งจะส่งผลอยู่ประมาณ 5 - 10 นาที เราอาจจะได้เห็น
กราฟเป็นแท่งยาว ๆ ทั้งขึ้น และ ลง ในเวลาเดียวกัน
2. สำคัญ
อันนี้ก็สำคัญ ก็จะส่งผลกระทบกับตลาดเงินมากแต่น้อยกว่า "สำคัญมาก" อยู่นิดนึง ซึ่งก็จะส่งผลให้มีกราฟยาว ๆ
(แต่ขนาดของแท่งจะสั้นกว่าแบบแรก)
3. ทั่วไป
อัน นี้จะเป็นข่าวเศรษฐกิจทั่ว ๆ ไป มีผลบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง หากประกาศวันเดียวกับ 2 ตัวบน อาจจะไม่ส่ง
อะไรสำคัญเลย แต่ถ้าประกาศตัวเดียว โดด ๆ อาจมีผลบ้างโดยหากสวนทางกับ 2 ตัวข้างบนอาจทำให้ตลาดนำ
ข่าวนี้มาเล่นได้ เพราะจะเป็นตัววัดอย่างหนึ่งว่า ตัวเลขอื่นอาจงจะหลอกลวงได้ คราวนี้ตัวเลขเศรษฐกิจ
ที่ประกาศนั้นเกี่ยวอะไรกับราคาทองคำ โดยปกติราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับ
1. อัตราแลกเปลี่ยนของ USD
2. ราคาน้ำมัน
3. ราคาของโลหะพื้นฐาน และ โลหะอื่น พวก ทองแดง เงิน แพตตินั่ม พาลาเดียม
4. อื่น ๆ เหตุการณ์ ภัยพิบัติทางรรมชาติ ข่าวก่อการร้าย หรือ ไม่คาดคิด
ทีนี้ตัวเลขที่ประกาศจะกระทบกับ 2 อย่างตรงๆ คือ อัตราแลกเปลี่ยน กับ ราคาน้ำมัน
แล้ว 2 ตัวนี้มีความเกี่ยวข้อง กับราคาทองคำอย่างไร?
1. อัตราแลกเปลี่ยน โดยปกติ ถ้าไม่มีข่าวอย่างอื่น (หมายถึงพวกข่าวก่อการ้าย ภัยธรรมชาติ ฯลฯ) ที่มีน้ำหนัก
มากกว่า อัตราแลกเปลี่ยนก็จะมีผลตรงๆ โดยไม่มีอย่างอื่นมาทำให้ราคาเพื้ยนไปจากเดิม โดยปกติแล้ว ทองคำจะ
ขึ้นเมื่อ USD อ่อนค่า และ ทองคำจะลง เมื่อ USD แข็งค่า
แล้วค่าที่ว่าอ่อนค่า กับ แข็งค่า เนี่ย เขาเทียบกับ สกุลไหนบ้าง โดยปกติแล้วจะดูที่ 2 สกุลใหญ่ ชื่อ JPY และ
EUR หากสองอันนี้ไปในทิศทางเดียวกัน ก็แสดงว่า USD อ่อน หรือ แข็งจริงๆ 
2. ราคาน้ำมัน จะเป็นตัวช่วยดัน หรือ ฉุด ราคาทองคำในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน
มาดูกันว่าโดยปกติปฏิทินเศรษฐกิจที่เค้าขยันประกาศตัวเลขกันมีอะไรบ้าง (มันอาจจะไม่ครบทุกอย่าง)
ระดับที่เรียกว่าสำคัญมากมีอะไรบ้าง...
ลำดับ ชื่อในปฏิทิน
1 Non farm Payrolls
2 Unempioyment Rate
3 Trade Balance
4 GDP ( Gross Domestic Production )
5 PCE Price Defliator ( Personal Consumption Expenditure)
6 CPI ( Consumer Price index )
7 TICS ( Treasury International Capital System )
8 FOMC ( Federal open Market committee meeting )
9 Retail Sales
10 Univ. Of Michigan Consumer Sentiment Survey
11 PPI ( Producer Price Index )
ระดับที่เรียกว่าสำคัญ...
ลำดับ ชื่อในปฏิทิน
12 Weekly Jobless Claims
13 Personal income
14 Personal spending
15 BOE Rate Decision ( Bank Of England )
16 ECB Rate Decision ( Europe Central Bank )
17 Durable Goods orders
18 ISM Manufacturing Index ( Institute of Supply Manager )
19 Philadelphia Fed. Survey
20 ISM Non-Manufacturing Index
21 Factory Orders
22 Industrial Production & Capacity Utlization
23 Non-Farm Productivity
24 Current Account Balance
25 Consumer Confidence ( Consumer Sentiment)
26 NY Empire State Index - ( New York Empire Index)
27 Leading indicators
28 Business Inventories
29 IFO Business Index ( Institute of IFO in Germany )
ระดับปานกลาถึงทั่วไป โดยมากใช้เป็นตัววัดพื้นฐาน...
ล่าดับ ชื่อในปฏิทิน
30 Housing Starts
31 Existing Home sales
32 New Home Sales
33 Auto and Truck sales
34 Employee Cost index - Labor Cost Index
35 M2 Money Supply - Money Cost
36 Construction Spending
37 Treasury Budget
38 Weekly Chain Stores - Beige Book -Red Book
39 Whole Sales Trade
40 NAPM ( Natonal Association of Purchasing Management)
กลุ่มสำคัญมาก
Trade Balance
โดยปกติประกาศทุกวันที่ 20 ของเดือน ซึ่งจะป็นข้อมูลรอง 2 เดือนก่อนหน้านี้ โดยการประกาศจะบอกให้รู้ถึง
ทิศทางของการส่งออกและการนำเข้า ซึ่งตัวเลข Trade Balance จะสามารถคาดคะเนตัวเลข GDP ในอนาคต
ได้ ตัวเลข Trade Balance จะนำค่าตัวเลข Export ลบกับ ตัวเลข Import หากผลที่ออกมามีค่าเป็น + จะ
หมายถึงเศรษฐกิจที่ดี และมีผลทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย
Gross Domestic Product หรือ GDP
จะประกาศทุกๆ สัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือน โดย GDP คือตัววัดที่กว้างที่สุดกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ
เศรษฐกิจ การที่ตัวเลข GDP เปลี่ยนแปลงไปจะหมายถึความปลี่ยนแปลงของอัตรการเจริญเติบโตของ
เศรษฐกิจ ซึ่จะบ่งบอกกี่ยวพันถึงอัตราเงินเฟ้อ การที่ตัวเลข GDP เพิ่มขึ้นจะทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย
Personal Consumption Expenditure หรือ (PCE)
ประกาศ ทุกๆ วันแรกของการท่างานของเดือน โดย PCE จะบอกถึงการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือน โดย
PCE จะบ่งบอกถึงความสามารถในการจับจำยของภาคครัวเรือน โดยตัวเลข PCE ที่สูงจะบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่
เติบโต ซึ่งจะทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Consumer Price Index หรือ CPI
จะประกาศ ทุกๆ วันที่ 13 ของเดือน โดย CPI จะเป็นตัววัดเกี่ยวกับระดับราคาของสินค้าและบริการที่ซื้อโดยผู้
บริโภค CPI ที่ห็นประกาศกันจะมี CPI กับ Core CPI ซึ่งต่างกันตรงที่ว่า Core CPI จะไม่รวม ภาคอาหาร
และ ภาคพลังงานโดยปกติ CPI จะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อ โดยตัวเลข CPI ที่สูงจะป็นตัววัดเรื่องอัตรา
เงินเฟ้อที่สูง ซึ่งจะทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
Treasury International Capital System หรือ TICS
ประกาศ ทุกวันที่ 5 ของการทำงานในแต่ละเดือน โดย TIC จะรวบรวมข้อมูลของ US เพื่อดูว่าการลงทุนของคน
US และ คนต่างชาติเป็นอย่างไรบ้าง โดยหากข้อมูล TICS เป็นตัวเลขที่สูงจะหมายถึงเศรษฐกิจของ US ที
แข็งแกร่งซึ่งมีผลทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น

Federal Open Market Committee หรือ FOMC
จะประชุมเมื่อไร ไม่มีตายตัวแน่นอน แล้วแต่เค้าจะนัดกัน โดยการประชุมจะดูภาพรวมและผลของการประชุมที่
สนไจกันคือเรื่องของอัตรา ดอกเบี้ย การปรับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมีผลทำให้ค่าเงินแข็งคำขึ้น
Retail Sales
ประกาศ ทุกวันที่ 13 ของเดือน ชื่งจะเป็นข้อมูลของเดืออที่แล้ว โดยจะวัดจากใบเสร็จของการค้าปลีก ซึ่งโดยปกติ
จะมองในภาพของสินค้า ซึ่งจะไม่สนใจเรื่องของการบริการและอื่นๆ (เช่นพวกค่าเบี้ยประกัน หรือค่าทนาย) Retail
Sale ที่ไม่รวมการซื้อรถ จะเรียกว่า Core Retail Sales โดยการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขการขายจะหมายถึง
ราคาที่เปลียนแปลงไป ไม่ได้หมายถึงความต้องการซื้อที่ลดลง การที่ตัวเลข Retail Sales มีตัวเลขที่สูงหมายถึง
เศรษฐกิจที่ดีและแข็งแกร่ง ซึ่งมีผลทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
University of Michigan Consumer Sentiment index
ออกทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือน โดย Michigan index จะเปรียบเทียบระหว่างดัชนีสองตัวคือ สิ่งที่คาดหวัง และ
สิ่งที่เป็นไปจริงๆ ถ้าสิ่งที่คาดหวัง ไว้และสิ่งที่เป็นจริง มีค่าใกล้เคียงกัน หมายถึงเศรษฐกิจเป็นไป ในแนวทางเดียวกัน
ที่หวังไว้ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Producer Price Index หรือ PPI
ประกาศราวๆ วันที่ 11 ของเดือนซึ่งจะเป็นข้อมูลของเดือนก่อน PPI จะเป็นตัววัดราคาของสินค้าในมุมมองของ
การค้าส่ง PPI ที่ไม่รวมพวกอาหารและพลังงานจะเรียกว่า Core PPl ซึ่งจะถูกจับตามองมากกว่า เพราะจะมีผล
กับอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจาก PPIจะเป็นตัวที่ออกมาก่อน CPI หาก PPI มีค่าสูงมักจะทำให้  CPI มีค่าที่สูงตามไป
ด้วย ดังนั้นการที่ PPI มีคำสูงจะทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
กลุ่มสำคัญ
Initial Weekly Jobiess Claims
ประกาศทุกวัน พฤหัส จะเป็นข้อมูลของสัปดาห์ปัจจุบันรวมถึงวันศุกร์ที่แล้วด้วย ซึ่งจะบอกถึงการว่างงาน โดยปกติ
จะสังเกตุความเปลี่ยนแปลงได้จากข้อมูลก่อนหน้าย้อนหลังไปราวๆ 4 สัปดาห์ แล้วมาทำเป็นกราฟ ทั่วไปแล้วหาก
มีความเปลี่ยนแปลงเกิน 30,000 จะเป็นสัญญาณบอกถึงการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงไป(อาจจะดีขึ้นหรือแย่ลง)
ตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้น หมายถึงคนว่างงานที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
Personal Income
ประกาศราวๆ วันที่ 5 ของการทำงานในแต่ละเดือน Personal Income เป็นตัววัดเกี่ยวกับรายได้ (ไม่สนว่า
จะได้มาจากไหน เช่นพวก ค่าเช่า,ได้มาจากรัฐ,เงินเดือน,ดอกเบี้ย หรืออื่นๆ ) โดยตัวนี้จะเป็นตัวชี้ถึงความ
ต้องการในการบริโภคในอนาคต (แต่ไม่เสมอไปนะ เพราะบางทีรายได้ที่มากขึ้น แต่คนอาจไม่จับจ่ายใช้สอยก็ได้)
ตัวเลข Personal Income ที่สูงจะหมายถึงอำนาจในการซื้อและเป็นสัญาณบ่งบอกว่าเศรษฐกิจน่าจะดี ซึ่งจะ
ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Personal Spending
ประกาศราวๆ วันแรกของการทำงานของเดือน ซึ่งจะเป็นข้อมูลของสองเดือนก่อนหน้า Personal Spending
จะเป็นตัวเลขรายจ่ายของบุคคล การจับจ่ายที่ลดลง จะหมายถึงรายได้ที่ลดลง ซึ่งจะทำให้กระแสเงินโดยรวม
ลดลง (แต่ก็เช่นเดียวกัน Personal Income บางทีการจ่ายลดลงไม่ได้หมายถึงรายได้ที่ลดลง แต่อาจจะไม่
อยากจะจับจำยเป็นได้) ตัวเลขการจับจ่ายที่มากขึ้น จะเป็นสัญญาณที่บ่งว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Europe Central Bank (ECB), Bank Of England (BOE), Bank Of Japan (BOJ)
การประกาศตัวเลขอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช่ US จะทำค่าเงินของประเทศนั้นๆ เปลี่ยนแปลงไป
โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น โดยปกติการปรับอัตราดอกเบี้ยจะคำนึงถึง 2 อย่างคือ
1. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (อาจจะอ่อนไป หรือแข็งไป)
2. อัตราเงินเฟ้อ และและเงินฝืด
ECB ประกอบไปด้วย 25 ประเทศในยุโรป คือ  ttaly, France, Luxembourg, Belgium, Germany,
Netherlands, Denmark, Ireland, United Kingdom, Greece, Spain, Portugal, Austria,
Finland, Sweden, Czech Republic, Estonia, Cyprus, Latvia, L.ithuania, Hungary.
Malta, Poland, Slovakia และ Slovenia
Durable Goods Orders
ประกาศราว ๆ วันที่ 26 ของเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลของเดือนก่อน โดยจะเป็นตัววัดปริมาณของการสั่งสินค้า การส่ง
สินค้า โดยจะเป็นตัววัดถึงภาคการผลิต ซึ่งหากว่าเศรษฐกิจ มีปัญหาจะส่งผลให้ปริมาณการสั่งสินค้าลดลง ตัวนี้จะ
เป็นเหมือนตัวบอกถึง GDP และ PDE การที่ตัวเลข Durable Goods Orders มีค่าที่มากขึ้น จะบ่งบอกถึง
เศษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Institute of Supply Management หรือ ISM
ออก ทุกวันแรกของการทำงานของเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลของสองเดือนก่อนหน้า ตัวนี้จะเป็นตัวบ่งบอกถึงภาคการ
ผลิต ซึ่งรวบรวมข้อมูลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับ การสั่งซื้อสินค้าใหม่, การผลิต, การจ้างงาน, สินค้าคงคลัง, เวลา
ในการขนส่ง, ราคา, การส่งออก และการนำเข้า การที่ตัวเลข ISM มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจะแสดงถึงเศรษฐกิจที่ดี และ
สามารถทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นได้
Philadelphia Fed Survey
ออก ราว ๆ วันแรกของการทำงานของเดือน ซึ่งจะป็นข้อมูลของสองเดือนก่อนหน้า โดยการสำรวจนี้จะมองมุม
กว้างในทิศทางของภาคการผลิต ซึ่งจะมีความสัมพันธ์ร่วมกับ ISM ที่มองเป็นลักษณะของการผลิตเป็นตัวๆไป
โดย Philadelphia Fed Survey จะบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของยุทธวิธีของผู้ผลิต ประกอบด้วย ชั่วโมงการ
ทำงาน, พนักงาน และอื่นๆ ซึ่งตัววัดตัวนี้มีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจ การที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นจะทำให้ค่าเงิน
แข็งขึ้น
ISM Service Index หรือ Non-Manufacturing ISM
ออก ราว ๆ วันที่สามของการทำงานของเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลของสองเดือนก่อน ซึ่งเป็นการสำรวจของกลุ่ม การเงิน,
ประกันภัย, อสังหาริมทรัพย์, สื่อสาร และทั่วไป การที่ตัวเลข ISM เพิ่มขึ้นหมายถึง demand ที่เพิ่มขึ้น และ
ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Factory Orders
ออกราวๆ วันแรกของการทำงานของเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลของสองเดือนก่อน Factory Orders เป็นการวัดการสั่ง
สินค้าทั้งหมด การสั่งสินค้าที่สูงหมายถึง demand ที่เพิ่มากขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้ค่า
เงินแข็งค่าขึ้น
Industrial Production
ออกราวๆ กลางเดือน เป็นข้อมูลย้อนหลัง 1 เดือน ซึ่งเป็นตัววัดว่าการผลิตของอุตส่าหกรรมได้ผลออกมาจริงๆ
เท่าไหร่ กาที่ตัวเลขออกมาสูงขึ้นหมายถึง demand ที่พิ่มขึ้น มีผลทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
Non-Farm Productivity
ออกราวๆ วันที่ 7 ของเดือนที่ 2 ของ ควอเตอร์ เป็นข้อมูลของควอเตอร์ที่แล้ว อันนี้เป็นตัววัดของผลงานของคน
งานและต้นทุนในการผลิตของสินค้า ในสภาวะที่เงินเฟ้อมีความสำคัญตัวเลขนี้ สามารถที่จะทำให้ตลาดเคลื่อนไหว
ได้ โดยถ้าตัวเลขที่ลดลงสามารถบอกถึงอนาคตที่เปลี่ยนไป เช่นตัวเลข GDP ที่ดี แต่ถ้าตัวเลขนี้ขัดกันก็สามารถ
ทำให้ตลาดมีผลกระทบได้ การที่ตัวเลข Non-Farm Productivity เพิ่มขึ้น หมายถึงการยืนยันในเรื่องของพื้น
ฐานของเศรษฐกิจที่ดี และส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
นี่เป็นระดับของความผันผวนของแต่ละข่าวนะครับ เป็นค่าเฉลี่ยครับ การที่เราจะเข้าเทรดอย่างไร ก็ให้รอข่าวออกก่อนนะครับ
ขอให้ทุกท่าน โชคดี มีตังค์ใช้ไม่ขาดมือ อย่างยั่งยืนครับ…Zee RoBot

(ผมมีโรบอทที่สามารถ ทำกำไรให้คุณได้ถึง 3-5% ต่อวัน (แจกฟรีมีเงื่อนไข)สนใจติดต่อ ไอดีไลน์ : i_c5522) หรือเข้ากลุ่มเทรดได้ที่นี่....  คุณได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม "โรบอท Lnw Robot Trad เงินล้าน ...แจกฟรี" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
https://line.me/ti/g2/YBTDbMGC8_DSgNdZs0UhhA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default หรือ  สแกน QR โค้ดนี้เพื่อเข้าร่วมกับเรา